ขั้นตอนการรักษาด้วยรากฟันเทียมของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน เพราะทันตแพทย์ต้องประเมินจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งจำนวนฟันที่รักษา ตำแหน่งใส่รากฟัน ความแข็งแรงของกระดูกขากรรไกร
👉 อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการปักรากเทียมสามารถแบ่งเป็น 2 ช่วงคร่าวๆได้ดังนี้
- ช่วงแรก เป็นการผ่าตัดปักรากเทียมลงในกระดูกขากรรไกร หรือกรณีคนไข้ที่ฟันหลอมานานกระดูกเริ่มละลายก็จะมีการปลูกกระดูกในช่วงนี้ รอให้แผลหายและมีการสร้างกระดูกมาล้อมรากฟันเทียม มักใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพกระดูกของผู้ป่วย
- ช่วงที่สอง ทำการต่อแกนฟันและครอบฟันเข้ากับรากเทียม เกิดเป็นฟันเสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้งาน
👉 การทำรากฟันเทียใช้ระยะเวลาประมาณ 45-90 นาที ขึ้นอยู่กับสภาพกระดูกขากรรไกรของคนไข้แต่ละคน อาจมีกรณีทำรากฟันเทียมที่ยุ่งยากซับซ้อนขึ้น เช่น ในกรณีที่มีการเติมกระดูกในเคสที่คนไข้ฟันหลอมานานกระดูกเริ่มละลาย การปักรากเทียมจะเริ่มโดยการใช้ยาชาเฉพาะที่ จึงไม่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดในเวลาทำการปักรากแต่อย่างใด เมื่อเหงือกและเนื้อเยื่อหมดความรู้สึก ทันตแพทย์จะเปิดเหงือกออกอย่างระมัดระวัง แล้วกรอกระดูกจนมีขนาดพอเหมาะกับรากฟันเทียมที่เลือกไว้ แล้วใส่รากฟันเทียม (เฉพาะในส่วนของราก) ลงไป จากนั้นเย็บปิดเหงือกด้านบนเอาไว้ รอเวลาให้แผลหาย โดยในระหว่างนี้อาจมีฟันเทียมให้ใช้งานไปก่อนได้ แล้วแต่กรณี
👉 ระยะเวลาการหายของแผลรากฟันเทียมก่อนใส่ครอบหรือฟันเทียมลงไปบนนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณและคุณภาพของกระดูกที่ฝังรากเทียมนั้นๆ รวมทั้งความยาวและเส้นผ่านศูนย์กลางของรากฟันเทียมที่ใช้ฝังด้วย โดยปกติทั่วไปที่กระดูกดีและเหมาะสม อาจจะใส่ฟันเทียมลงไปได้เลย แต่ยังรับแรงไม่ได้ เพราะรากฟันเทียมยังไม่แน่นดีนักเสี่ยงต่อการหลุดได้ กรณีกระดูกไม่ดีนักอาจต้องรอประมาณ 6-12 สัปดาห์จนกว่ารากฟันเทียมจะแน่นพอแล้วใส่ฟันให้รับแรงเคี้ยวได้ หรือหากมีการเติมกระดูกจะต้องรอนานขึ้น อาจนานถึง 6 เดือน
👉 ฟันเทียมชนิดติดแน่นหรือถอดได้สำหรับใช้ชั่วคราวระหว่างรอแผลรากฟันเทียมหายสามารถใส่ได้ในช่วงนี้ เพื่อให้คนไข้มีฟันในปากตลอดเวลาแม้หลังทำรากฟันเทียมไปแล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ และแผนการรักษาของคุณหมอ